วันจันทร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2553
ตอบคำถาม
1.ในการจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัยท่านต้องศึกษาในเรื่องใดบ้าง
ตอบ ต้องศึกษาเกี่ยวกับตัวเด็ก ต้องคำนึงถึงตัวเด็กเป็นหลัก จัดประสบการณ์ได้ลงมือ "กระทำ"
เพื่อส่งเสริมพัฒนาการทุกด้าน
2.การจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัยมีวัถตุประสงค์อะไร
ตอบ
1. ส่งเสริมการใช้ภาษาในการฟังพูด และการถ่ายทอดเรื่องราว
2. เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ทักษะการพูด ฟัง อ่านและเขียน ได้อย่างถูกต้อง
3.หลักการจัดประสบการณ์ภาษาสำหรับเด็กปฐมวัยมีอะไรบ้าง
ตอบ
1.ครูควรจัดสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมทักษะในด้านการพูดและการเขียน โดยเปิดโอกาสให้เด็กได้วาดรูปหรือการเล่าเรื่อง
2.ครูควรเตรียมอุปกรณ์การเขียนไว้ที่มุมห้องเรียนเพื่อให้เด็กเล่นตามต้องการ
3.ครูควรส่งเสริมเด็กใช้ภาษาอื่นๆนอกจากภาษาพูด เช่น ภาษาท่าทาง ภาษาเขียน ดนตรี ศิลปะ
4.ครูควรกำหนดเวลาอ่านให้แน่นอน
5.ครูควรเปิดโอกาสให้เด็กได้ตีความและแก้ปัญหา โดยใช้นิทานเป็นเครื่อง เพราะนิทานเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการสร้างเสริมประสบการณ์ด้านต่างๆ
6.ในขณะอ่านหนังสือนิทาน ครูควรแนะนำศัพท์ใหม่ๆ
7.ส่งเสริมให้เด็กมีส่วนร่วมในการตกแต่งห้องเรียนโดยผ่านการใช้ภาษา เช่น ตกแต่งห้องเรียน โดยแผ่นป้ายที่เด็กเขียน
4.ท่านมีแนวทางในการให้ความรู้กับผู้ปกครองเพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางภาษาได้อย่างไรบ้าง
ตอบ ให้คำแนะนำความรู้กับผู้ปกครอง เมื่อท่านมีเวลาว่างควรหากิจกรรมทำกับลูก เช่น วาดภาพเล่าเรื่องราว ศิลปะ ร้องเพลง เป็นต้น
หัดให้ลูกฝึกอ่านเขียนเป็นนิสัย
5.ให้ท่านเลือกกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการทางภาษาที่ท่านชอบที่สุดพร้อมให้เหตุผล
ตอบ.ชื่อ: เล่านิทานประกอบภาพ(อนุบาล3) เรื่องสุนัขจิ้งจอกกับแพะ
วัตถุประสงค์:เพื่อให้เด็กรู้จักพยัญชนะต้น
:เพื่อให้เด็กสามารถถ่ายทอดเรื่องราวได้
:เพื่อให้เด็กสามารถตีความและแก้ปัญหาโดยใช้นิทานเป็นเครื่องมือได้
กิจกรรม:เล่านิทานให้เด็กๆฟังโดยเน้น เสียงพยัญชนะต้น
เด็กแต่ละครจะมีคำถาม เช่น ทำไมสุนัขจิ้งจอกเป็นคนไม่ดีคะ สุนัขจิ้งจอกเป็นสัตว์นิสัยชอบแกล้งสัตวือื่นใช่ไหมคะ
ประเมินผล:เด็กๆช่วยกันสรุปเรื่องราวที่ได้ฟัง เด็กทุกคนตั้งใจฟังอย่างมากและอยากมาให้เล่านิทานให้ฟังอีก
วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
MindMapper เรื่องข้าว
วันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553
กิจกรรมทางภาษาเล่านิทาน เรื่อง เเม่โพสพ
นามมาเเล้วมีครอบครัวยากจนครอบครัวหนึ่ง ซึ่งประกอบด้วยเเม่เเละลูกหลายคน ลูกต้องอดอยากเสมอด้วยความสงสารลูก เเม่จึงตั้งจิตอธิษฐานว่าหากตนจะต้องตายก็ไม่ว่า ขอเพียงได้ช่วยให้ลูกได้กินอย่างอิ่มหมีพีมัน ต่อมาเมื่อเเม่ตายลงได้เกิดเป็นต้นข้าว ช่วยให้ลูกมีอาหารเพียงพอที่จะรับประทาน
ต่อมานามเข้าลูกเริ่มลืมความหิวโหย ก็เริ่มกินทิ้งกินขว้างไม่ประหยัดทำให้เเม่โพสพเสียใจมาก ในเวลาดึกสงัด หากไปตามยุ้งตามฉาง จะได้ยินเสียงเเม่โพสสะอื้นให้เด็กๆ ก็เช่นเดียวกัน หากรับประทานข้าวไม่หมด ปล่อยให้ตกหล่นทิ้งขว้าง เเม่โพสพก็จะร้องไห้เช่นเดียวกัน
เพลง ฉันคือข้าว
ฉันคือข้าวที่เด็กกินทุกวัน ช่วยกายาเติบโตใหญ่ให้เเข็งเเรง
ข้าวใส่โม่บดให้เสร็จเมล็ดที่เเข็ง กลายเป็นเเป้งทำขนมอร่อยเอย
เพลง ข้าวทุกจาน
ข้าวทุกจาน อาหารทุกอย่าง
อย่ากินทิ้งขว้าง เป็นของมีค่า
ผู้คนอดอยาก มีมากหนักหนา
สงสารบรรดา เด็กตาดำดำ
คำคล้องจอง รีรีข้าวสาร
รีรีข้าวสาร สองทะนานข้าวเปลือก เลือกท้องใบลาน
คดข้าวใส่จาน เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน
พานคนข้างหลังไว้
คำคล้องจอง ข้าวเอยข้าวสุก
ข้าวเอยข้าวสุก ต้องกินทุกบ้านทุกฐานถิ่น
กว่าจะได้ข้าวให้เรากิน ชาวนาสิ้นกำลังเกือบทั้งสิ้น
ต้องทนเเดดทนฝนทนลมหนาว จึงได้ข้าวจากนามาถึงนี่
คนกินข้าวควรนึกไว้ให้จงดี ชาวนามีคุณค่าเเก่เราไม่เบาเลย
การบันทึกครั้งที่ 10
วันนี้อาจารย์ได้ให้เสนองานนิทานอะไรเอยต่อ
แล้วนำเสนองานที่ไปเล่นนิทาน
บรรยากาศห้องเรียน
ทุกคนตั้งใจทำงานส่ง บรรยากาศเย็นสบาย
วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
บันทึกครั้งที่9
เรื่องสุนัขจิ้งจอกกับแพะ ให้น้องๆอนุบาล 3 ฟัง น้องๆให้ความสนใจมาก
คอยซักถามตลอดเวลา เช่น
พี่คะสุนัขจิ้งจอกเป็นสัตว์ไม่ดีใช่มั้ยคะ
พี่ครับสุนัขจิ้งจอกหลอกเเพะใช่มั้ยครับ
บรรยากาศในห้องเรียนวันนี้
น่าเบื่อ อาจารย์ให้เพื่อนเสนองานที่ไปเล่านิทาน
บันทึกครั้งที่ 8
วันนี้อาจารย์ทบทวนและพูดคุยกับนักศึกษา เกี่ยวกับงานกลุ่มที่สั่งให้นักศึกษาแบ่งกลุ่ม4คน 6กลุ่ม จัดกิจกรรมทางภาษาที่โรงเรียนอนุบาลสาธิตจันทรเกษม อาจารย์บอกรายละเอียดและยกตัวอย่างกิจกรรมของแต่ละกลุ่มให้นักศึกษาฟัง และฝึกให้นักศึกษาคิดตาม พร้อมทำความเข้าใจ
-พร้อมทั้งให้นักศึกษาทำตารางการจัดกิจกรรมทางภาษาส่งมาให้อาจาย์ดูทุกกลุ่ม
-รวมทั้งอาจารย์ตรวจงานปริศนาคำทายให้กับนักศึกษา และยกตัวอย่างการพิมพ์คำและแยกคำเพื่อใช้ในการอ่านให้เด็กอ่านง่ายและให้เด็กได้จำคำต่างๆได้
บรรยากาศในห้องเรียน
วันนี้อากาศเย็นสบาย มีการให้นักศึกษาลอง
ออกมานำเสนองานปริศนาคำทายทีละคน
บันทึกครั้งที่7
วันนี้อาจารย์สอนต่อจากอาทิตย์ที่แล้ว เป็นเรื่องของการสั่งงานนอกเวลาเรียน ให้นักศึกษาจับกลุ่มกลุ่มละ4คน แบ่งเป็น6กลุ่ม เล่านิทาน และถามคำถามเด็กพร้อมทั้งทำการบันทึกถ่ายรุปเก็บไว้
บรรยากาศในห้องเรียน
วันนี้บรรยากาศในห้องเรียนค่อนข้างเงียบ เนื่องจากเพื่อนๆส่วนใหญ่ขออนุญาตอาจารย์ไปทำงานเกี่ยวกับวิชามนุษย์และสิ่งแวดล้อมที่ต่างจังหวัด
และมีความรู้สึกว่าข้างนอกวันนี้ฝนตกอากาศวันนี้ค่อนข้างสบาย
วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ 2552
อาจารย์สั่งงานว่าจะให้นักศึกษาจับกลุ่มวันละ3คน ไปเล่านิทานตอนเช้าให้เด็กฟังที่สาธิตอนุบาลจันทรเกษม ให้วางแผน จดบันทึก และถ่ายรูป (บันทึกลงบล็อก) รายละเอียดต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อม
ควรที่จะเลือกเรื่องแบบไหนเล่าเรื่องอะไร หน่วยที่จะเล่า เป็นต้น
บรรยากาศในห้องเรียน
บรรยากาศเย็นสบาย เรียนแบบสบายๆ มีการถามตอบแสดงความคิดเห็นในห้องเรียน